Re: ประสบการณ์"ขนหัวลุก"เข้ามาเล่ากันเลยที่บอร์ดนี้ อึ๋ยหลอนว่ะ..........

by หมวดนก.15 Wed Feb 11, 2009 10:38 am

วันก่อน ไปจับผีขนุน แถวศาลายา ผีขาวๆๆ แต่จะจับเผื่อเรียกค่าปรับเท่านั้น

มันเกี่ยวกะพี่ตรงไหนฟ่ะ

สบ 1. ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

by ฮาหลุน.16 Wed Feb 11, 2009 1:25 pm

เดี๋ยวก้โดน เด็กจับหัวหลอก เพื่อนหมวด อิอิอิ

by ry.16 Wed Feb 11, 2009 11:38 pm

คืนนี้ไมมีเราปั่นอยุ่คนเดียวหว่า

ชักหวั่นๆแระเงียบสนิทมีแค่เพียงเสียงกรนกะต๊อด

อิอิ

by ฮาหลุน.16 Thu Feb 12, 2009 9:40 am

อิอิอิ หลอนคนด้วยระวังนะจ่ะ แม่ค้าขนมหวาน บรื้ออออ

by ry.16 Thu Feb 12, 2009 2:53 pm

ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:อิอิอิ หลอนคนด้วยระวังนะจ่ะ แม่ค้าขนมหวาน บรื้ออออ

มะเอาหรอกหลอนคน

เด๋วเค้าตามไม่เลิกอ่ะ

อิอิ(ไม่ค่อยจะ...เล้ย)

by vickstor.16 Thu Feb 12, 2009 4:01 pm

ry.16 พิมพ์ว่า:คืนนี้ไมมีเราปั่นอยุ่คนเดียวหว่า

ชักหวั่นๆแระเงียบสนิทมีแค่เพียงเสียงกรนกะต๊อด

อิอิ

เหรอจ๊ะ งั้นขอไปนอนกรมแข่ง ด้วยได้ป่ะ อิอิอิ

by ฮาหลุน.16 Thu Feb 12, 2009 5:19 pm

นอนแบนก็เมาแล้วมั่ง

by ry.16 Thu Feb 12, 2009 6:33 pm

สงสัยยยย

by vickstor.16 Thu Feb 12, 2009 8:43 pm

พิมพ์ ผิด นอนกรน เว้ย

by Uno_Studio.1 Fri Feb 13, 2009 1:42 am

มาเล่าเรื่องต่อ...

อันนี้ไม่น่ากลัว ไม่เห็นวิญญาณ แต่มันก็นะ..

เรื่องเกิดตอนไปที่ ทีลอซู.. (หากใครเคยไป ทีลอซู คงจินตนาการได้ไม่ยาก.. แต่หากนึกไม่ออก ขอให้นึกถึงภูเรือ ที่รถยนต์สามารถเข้าถึงจุดอุทยานได้ ครับ)

เริ่มเรื่องเลย.. ตอนนั้นเป็นช่วงปี 4 เพื่อนกลุ่มเราที่เคยไปฝึกงานด้วยกันนัดกันไปที่ทีลอซู ซึ่งได้จองที่พักที่โน่นไว้แล้ว จุดเริ่มต้นของเรา เริ่มที่หมอชิตเพื่อนั่งรถไปที่แม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างรอรถ พวกเราก็ดันพูดเรื่องผีสางนางไม้กันซะงั้น.. ไอ้เราก็ดันปากหมาไปโดยไม่ตั้งใจ พูดออกไปว่า "ในชีวิตเราก็ยังไม่เคยเจอ อยากพบเจออย่างที่เค้าเล่าจะตาย แต่ไม่ได้ลบหลู่นะ" เท่านั้นแล.. เพื่อนก็เข้ามาประนามซะงั้น เหอ เหอ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ได้คิดอะไรจริงๆ

ตอนนั่งรถทัวร์ไป ที่แม่สอด ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น.. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ.. โอเย่

พอมาถึงแม่สอด เราก็ต้องต่อรถกระบะ ซึ่งเหมือนรถสองแถวที่อุดรอะแหละ โดยต้องนั่งผ่าน 1200 กว่าโค้ง แน่นอน... เพื่อนอ้วกกันกระจาย... แต่ดั๊น มีเพื่อนผู้หญิงคนนึง นิ่งมาก มิเป็นไร (ต้องบอกก่อนว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เป็นจุดสำคัญของเรื่อง เป็นคนเรียบร้อย เรียนเก่ง ช่างพูด) แต่เอาแต่เงียบแฮะ.. จนกระทั่งเลยมาครึ่งทางจากจุดนัดหมาย รถก็จอดอีกครั้งเพื่อนให้เพื่อนไปอ้วก เพราะเมาโค้งกัน.. เพื่อนผู้หญิงคนนี้ก็ท่าทางแปลกๆ เดินออกจากรถมาสูบบุหรี่ซะงั้น (ไม่เคยเห็นมันสูบเลยนะ) เล่นเอาเพื่อนที่เหลืองงไปตามกัน..

พอผ่านโค้งหฤโหด ก็ถึงที่พักที่เราได้จองไว้ ต่อจากนั้นก็จะเป็นการล่องแก่ง เพื่อไปที่จุดรอรถเพื่อเตรียมขึ้นอุทยาน เราดันได้อยู่แพรกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้น แน่นอน ระหว่างล่องแพร มันก็เงียบๆ เหม่อมองธรรมชาติตามทางล่องแก่ง ไอ้เราก็ไม่คิดอะไร คิดว่ามันคงอินกับธรรมชาติ ซักพัก มันกระโดดน้ำเฉยเลย และบอกว่ามาเล่นน้ำกัน เพื่อนคนอื่นก็ตกใจ.. ไอ้เราก็ไม่คิดอะไร เห็นมันโดดคนเดียว เลยโดดตาม (ลืมบอก ตอนนี้ ใส่เสือ้ชูชก เอ้ย ชูชีพกันทุกคนนะ หายห่วง) และก็ว่ายแข่งกับแพรสักพัก แล้วก็ดึงมันมานั่งแพรดังเดิม (อะไรของมันวะเนี่ย - -")

และแล้วก็มาถึงจุดรอรถ เพื่อนๆ ทุกคนก็จำอ้าวเข้าห้องน้ำกันยกใหญ่ เพราะกั้นกันมานาน รวมทั้งเราด้วย พอทุกคนปฏิบัติภารกิจเสร็จ ก็มารวมตัวกันที่รถที่ทางที่พักจัดมาให้ แต่... เอ๊ะ.. เพื่อนผู้หญิงคนนั้นหายไป... งงสิคร๊าบ.. หาในห้องน้ำก็ไม่เห็น.. เลยไปถามทหารที่เฝ้าทางขึ้นอุทยาน เค้าก็บอกว่า เห็นผู้หญิงคนนึงเดินขึ้นไปคนเดียว โอ้ว..แม่เจ้า ให้ได้งี้สิ "มันเป็นไรวะ - -" ... พวกเราก็เลยนั่งรถขึ้นไป เผื่อเจอมันระหว่างทาง และก็เจอจริงๆ ด้วย เราก็เลยเรียกมันขึ้นมา มันก็ขึ้นมานะ แต่ไม่พูดอะไรเลย เพื่อนๆ คนอื่นเริ่มใจไม่ดีและเป็นห่วงมันสิครับ รวมทั้งเราด้วย T^T

พอถึงที่พัก ก็เกือบจะเย็นแล้ว พวกเราก็กางเต็นท์กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสร็จ และแยกย้ายไปอาบน้ำ ... ทุกคนอาบน้ำเสร็จ ยกเว้น... เพื่อนผู้หญิงคนนี้แหละ.. เห็นนั่งอยู่หน้าเต็นท์นานมาก.. จากนั้นก็เข้าไปที่เต็นท์.. สักพักนึงก็ออกมา.. สิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อนๆ แทบไม่เชื่อ... มันใส่กระโจมอก ออกมาแค่นั้น พร้อมแผ่นน้ำเต้าปูปลา พร้อมกับพูดซะดังซะเต็นท์อื่นได้ยิน "ใครจะเล่นพนันกับกู.. เด๋วกูเป็นเจ้ามือเอง.." โอ้ว.. แม่เจ้า เจ้าแม่กระโจมอก เชื่อว่าข้างในคงล่อนจ้อนแน่ๆ ออกมานั่งหน้าเต็นท์พร้อมน้ำเต้าปูปลา ตูล่ะเชื่อเลย เราเลยบอกให้เพื่อนผู้หญิงไปเคลียร์ พร้อมพามันไปอาบน้ำ กว่าจะเคลียร์ได้ ก็ปาไปเกือบชั่วโมง.. พอมันอาบน้ำเสร็จ ก็ดูมันโอเคขึ้น ก็เลยไปกินข้าวกัน....

นี่แหละครับ ไคลแมกซ์... หลังกินข้าวเสร็จ ตามวัยรุ่นท่องเที่ยวก็ต้องมา ชุมนุมกันหน้าเต็นท์ กิน ดื่น เล่นกีตาร์... แต่พวกรเราก็เล่นไปพร้อมดูมันไป เพราะมันนิ่งๆ ไม่พูดอะไรเลย... เครียดนะนี่ T^T จนกระทั่ง.. มันเริ่มบ่นเบาๆ "กูทนไม่ไหวแล้วๆๆๆๆๆๆ" จากนั้นเพื่อนผมคนนี้ก็เริ่มตวาดทุกเต็นเลยครับ ประมาณว่า พวกมึงกินดื่ม มึงลบหลู่กู พวกมึงเล่นกีตาร์เสียงดัง พวกกูรำคาญ... ระแวกนั้นถึงกับเงียบครับ พวกเพื่อนเราก็กดจับมันเอาไว้ แทบเอาไม่อยู่ เพราะมันทั้งเอาเล็บจิกทั้งกัด (เราได้มาหลายแผลเลย) สุดท้ายเราต้องเอาผ้ามารัดปากไว้ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเข้ามาดูแล โอ้วแม้เจ้า.. เต็นท์เราดูโดเด่นไปโดยปริยาย จากนั้นทักคนช่วยกันอุ้มไปที่รถที่สภาพที่เพื่อนผู้หญิงคนนี้ขัดขืนอย่างเต็มที่ คิดเอาแล้วกัน ต้องใช้ผู้ชาย 6 คนอุ้มมา ล็อกแขนล็อกขาไปเลย เพื่อนผู้หญิงที่เหลือร้องไห้หมดเลยแฮะ..

จากนั้นเราก็ต้องนั่งรถลงจากอุทยาน.. เป็นคร้งแรกที่ต้องนั่งลงประมาณ 5 ทุ่ม ระยะทางถึงตีนเขาประมาณ 10 กว่ากิโล ช่างเป็นเวลาที่ยาวนานจริงๆ เพราะต้องนั่งรถท่ามกลางความมืดและป่าเขา เหอ เหอ สุดจะบรรยาย.. แต่เราไม่สนอะไรอะ ต้องคอยกดจับเพื่อนคนนี้ไว้.. เพราะกลัวจะโดดลงจากรถ และโดหน้าผาน่ะสิ บอกเลยว่าตอนนั้นอารมณ์เที่ยวไม่มีแล้วครับ แต่ทำยังไงก็ได้ ให้พวกเราปลอดภัยจนถึงกรุงเทพ....

พอมาถึงตีนเขา ที่แรกที่เราไปเลยคือโรงพยาบาลครับ เฮ้ออออ.. กว่าจะถึงโรงพยาบาล.. ให้มันได้ยอย่างนี้สิ.. หมอเลยต้องให้ยาสลบและยาแก้เครียดไป.. พวกเราก็เลยต้องนอนโรงพยาบาลไปด้วย.. ก่อนนอน พวกเราก็มาคุยกันกับเจ้าหน้าที่ด้วย.. คุยไปคุยมา.. ก็โยงไปถึงเรื่องเจ้าป่าขุนเขา.. แน่นอน เราก็ซวยสิครับ เพราะเพื่อนเคยประนามไว้ว่าเราอยากเจอ และเราก็ได้เจอสมใจ ซะงั้น T^T ... แทนที่จะได้นอนที่เต็นท์ หรือ ที่พัก กลายเป็นว่าพวกรเต้องมานอนเฝ้าเพื่อนที่โรงพยาบาลแทน (ตอนนี้ก็โทรบอกพ่อแม่เพื่อนคนนั้นให้รับทราบแล้ว)

by Uno_Studio.1 Fri Feb 13, 2009 1:42 am

พอรุ่งเช้ามา พวกเราก็มาปรึกษากันว่าจะเอาไงต่อ.. จะกลับหรือจะไปดูน้ำตกกันก่อน.. (เพื่อนๆ เสียดายน้ำตกกันอะ เสียตังค์ส่วนตัวกันมาเที่ยวก็เยอะ..) แต่เราเสนอว่า กลับดีกว่า เกิดมีใครเป็นอะไรกันไปมันไม่คุ้ม แต่เพื่อนก็ยังเสียดาย.. จนเพื่อนคนนั้นฟื้น อาการดูดีขึ้น.. เพื่อนก็เลยถามว่าถ้าไปต่อน้ำตก จะไหวไหม เพื่อนคนนั้นก็บอกอยากไปเหมือนกัน.. มาทั้งทีแล้วก็ต้องให้คุ้ม.. ก็เลยตกลงกันตามนี้.. แต่เราสิ ใจไม่ดีครับ กลัวเกิดเรื่อง แต่ทำไงได้ ก็ต้องตามนั้นแหละครับ.. T^T

ก่อนจะไปที่น้ำตก พวกเราก็แวะอุทยานนะจุดเกิดเหตุก่อน เพื่อทำพิธีการขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อน (เจ้าหน้าที่พามาเองเลย แถมพาหมอไสยมาด้วย - -) จากนั้นเราก็ไปที่น้ำตก.. บอกตามตรง เราไม่มีอารมณ์เที่ยวแล้ว ตอนนี้รับหน้าที่เป็นคนติดตามเพื่อนผู้หญิงคนนั้นแทน เพราะกลัวว่าจะโดดลงน้ำตกอะดิ..

ถึงน้ำตก เพื่อนๆ ก็เล่นน้ำตามปกติ ส่วนเราขอเป็นบอดี้การ์ดแทน ทำทุกอย่างตั้งแต่ดูแลของยันถ่ายรูป.. เหอ เหอ คิดแต่ว่า ต้องไม่มีใครเป็นอะไร... T^T

และแล้วเหตุการณ์ก็ผ่านไปด้วยดี.. พวกเราก็ลงจากอุทยาน เก็บของจากที่พัก.. และตรียมนั่งรถผ่านโค้งหฤโหด ตอนนี้ เราก็นั่งหลังสุด ป้องกันไว้ กลัวว่าเพื่อนจะกระโดดลงจากรถไป เพราะดูมันยังไม่ปกติ มันยังนิ่งๆ อยู่เลย แถมเอาแต่มองหลังรถอีก เราก็คิดว่ายังไปพ้นจากถิ่นเจ้าป่าขุนเขา ต้องปลอดภัยไว้ก่อน.. จะบร้า...ตาย... T^T

จากนั้นก็มาถึงแม่สอด เตรียมนั่งรถทัวร์กลับ พวกเราก็ทานข้าวเย็นกันก่อน และก็ให้เพื่อนคนนั้นทานยานอนหลับซะ เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เดียวกันในรถทัวร์ พวกเราดังเลยนะนี่ T^T แต่สุดท้ายพวกเราก็กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ถึงกรุงเทพ พ่อแม่และพี่สาวเค้าก็มารออยู่แล้ว ด้วยสีหน้าที่ไม่ดี จากนั้น พ่อแม่เค้าก็พาเค้าไปที่โรงพยาบาลต่อ ส่วนเราแระเพื่อนๆ ที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับ

ณ ตอนนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเพราะความเครียดของเค้าเอง แต่ไม่อยากคิดอะไรมาก แค่ตอนนี้ เค้ายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างดี ก็พอแล้ว.......

ปล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเพิ่งลบหลู่อะไร ไปเที่ยวสถานที่เป็นป่าเข้า ก็ขอขมาไว้ก่อนก็จะดี...

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราไม่ได้เที่ยวทีลอซูอย่างเต็มที่ เราสัญญาว่า จะไปอีกแน่นอน และจะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู ณ ที่นั้น อย่างแน่นอน

ไปกับเรามั๊ย.....

by ฮาหลุน.16 Fri Feb 13, 2009 9:49 am

ให้ไปอีก 4 กระโหลกครับเพื่อนอั๋น

by ry.16 Fri Feb 13, 2009 11:02 am

ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:ให้ไปอีก 4 กระโหลกครับเพื่อนอั๋น

+อีก4กะโหลกเลย

by ฮาหลุน.16 Fri Feb 13, 2009 1:36 pm

น่ากลัว บรื้ออออออออออออ

by Uno_Studio.1 Fri Feb 13, 2009 3:15 pm

ใครยังไม่รู้ไปเที่ยวไหนช่วงหน้าฝน ก็จัดที่ ทีลอซูได้นะครับ อยากไปด้วย ไปแก้ตัว T^T

by ry.16 Fri Feb 13, 2009 5:29 pm

Uno_Studio.1 พิมพ์ว่า:ใครยังไม่รู้ไปเที่ยวไหนช่วงหน้าฝน ก็จัดที่ ทีลอซูได้นะครับ อยากไปด้วย ไปแก้ตัว T^T

ตอนแรกเห็นรูปแล้วอยากไปมาก แต่ตอนนี้ขอคิดดูก่อน

อิอิ

by ฮาหลุน.16 Sat Feb 14, 2009 11:57 pm

อิอิอิ ด้วยคน

by ฮาหลุน.16 Sun Feb 15, 2009 12:01 pm

ry.16 พิมพ์ว่า:
Uno_Studio.1 พิมพ์ว่า:ใครยังไม่รู้ไปเที่ยวไหนช่วงหน้าฝน ก็จัดที่ ทีลอซูได้นะครับ อยากไปด้วย ไปแก้ตัว T^T

ตอนแรกเห็นรูปแล้วอยากไปมาก แต่ตอนนี้ขอคิดดูก่อน

อิอิ

แต่ถ้าไป ไปกันสองคนดีกว่าน่ะจ๊ะ เหม่งจ๋าาาา อิอิอิ wicked

by ry.16 Sun Feb 15, 2009 6:33 pm

ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:
ry.16 พิมพ์ว่า:
Uno_Studio.1 พิมพ์ว่า:ใครยังไม่รู้ไปเที่ยวไหนช่วงหน้าฝน ก็จัดที่ ทีลอซูได้นะครับ อยากไปด้วย ไปแก้ตัว T^T

ตอนแรกเห็นรูปแล้วอยากไปมาก แต่ตอนนี้ขอคิดดูก่อน

อิอิ
แต่ถ้าไป ไปกันสองคนดีกว่าน่ะจ๊ะ เหม่งจ๋าาาา อิอิอิ

เอ..ไมวันนี้ป๋าเรียกเค้าแปลกๆหว่า

เหม่งจ๋า...นี่นังวิคมันชอบเรียกนี่นา oek

by ฮาหลุน.16 Mon Feb 16, 2009 11:03 am

เจ้าวิคมันมาสวมรอย อย่างงี้มันต้องโดนชุดใหญ่ แฮ่่่่่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

by ry.16 Mon Feb 16, 2009 11:34 am

ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:เจ้าวิคมันมาสวมรอย อย่างงี้มันต้องโดนชุดใหญ่ แฮ่่่่่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวสร้างความร้าวฉานนนน

by ฮาหลุน.16 Mon Feb 16, 2009 12:03 pm

เดี๋ยวจะจัดการเก็บมันเลยงานนี้

by ry.16 Mon Feb 16, 2009 1:29 pm

ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:เดี๋ยวจะจัดการเก็บมันเลยงานนี้

โอ้ยงานนี้เพื่อนซี้หักเหลี่ยมโหด

อิอิ

by vickstor.16 Mon Feb 16, 2009 1:29 pm

ry.16 พิมพ์ว่า:
ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:เจ้าวิคมันมาสวมรอย อย่างงี้มันต้องโดนชุดใหญ่ แฮ่่่่่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวสร้างความร้าวฉานนนน

แหมถ้าสวมรอย จิง จะเรียกเหม่งจ๋า ทำไมจ๊ะ อิอิอิ เค้าเรียกว่าอยู่ในใจเสมองัยจ๊ะ ขนาดเอาชื่อ ท่าประธานมาใช้ ยังมะลืม เหม่งจ๋า เลย อิอิอิ

by ry.16 Mon Feb 16, 2009 1:31 pm

vickstor.16 พิมพ์ว่า:
ry.16 พิมพ์ว่า:
ฮาหลุน.16 พิมพ์ว่า:เจ้าวิคมันมาสวมรอย อย่างงี้มันต้องโดนชุดใหญ่ แฮ่่่่่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวสร้างความร้าวฉานนนน
แหมถ้าสวมรอย จิง จะเรียกเหม่งจ๋า ทำไมจ๊ะ อิอิอิ เค้าเรียกว่าอยู่ในใจเสมองัยจ๊ะ ขนาดเอาชื่อ ท่าประธานมาใช้ ยังมะลืม เหม่งจ๋า เลย อิอิอิ

อ่าวอ่านแล้วงง

ตกลงใช้ชื่อทั่นประทานมาชิมิ